เนื้อวัวแต่ละส่วนมีลักษณะและความเหมาะสมกับเมนูที่แตกต่างกันไป โดยหลักๆ แบ่งออกเป็น 6 ส่วน ดังนี้
1. สันคอ (Chuck)
- ลักษณะ: มีไขมันแทรกอยู่บ้าง เนื้อนุ่ม เหมาะกับการปรุงด้วยความร้อนนาน
- เมนูที่เหมาะสม: สตูว์เนื้อ ต้มแซ่บเนื้อ เนื้ออบพ็อตโรสต์ แกงเนื้อ แฮมเบอร์เกอร์
2. ซี่โครง (Rib Cut)
- ลักษณะ: มีไขมันแทรกอยู่เยอะ เนื้อนุ่ม ชุ่มฉ่ำ
- เมนูที่เหมาะสม: ย่าง อบ ต้มแซ่บ ซี่โครงตุ๋น บาร์บีคิว
3. เนื้อสัน (Loin Cut)
- ลักษณะ: มีไขมันแทรกน้อย เนื้อแดง นุ่ม
- เมนูที่เหมาะสม: สเต็ก ย่าง อบ ทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่ว หรือซอสต่างๆ
4. เนื้อสะโพก (Round Cut)
- ลักษณะ: ไขมันน้อย เนื้อแน่น เหมาะกับการบด
- เมนูที่เหมาะสม: เนื้อบด ไส้กรอก แฮมเบอร์เกอร์ รมควัน ตากแห้ง
5. เนื้อติดหน้าอก (Brisket)
- ลักษณะ: มีไขมันแทรกอยู่เยอะ เหนียว
- เมนูที่เหมาะสม: ตุ๋น บาร์บีคิว ย่างแบบเสือร้องไห้
6. เนื้อติดกับขา (Shank)
- ลักษณะ: มีเอ็นแทรกอยู่เยอะ เหนียว
- เมนูที่เหมาะสม: ตุ๋น ต้มแซ่บ แกงเนื้อ
นอกจากนี้ ยังมีเนื้อส่วนอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น
- เนื้อลูกมะพร้าว (Eye Round): เหมาะกับการอบ ตุ๋น แกง
- เนื้อสะโพกบน (Top Round): เหมาะกับการอบ ย่าง ต้มแซ่บ
- สันนอก (Striploin): เหมาะกับการย่าง อบ สเต็ก
- เนื้อส่วนหน้าท้อง (Plate Cut หรือ Belly): เหมาะกับการย่าง ต้มแซ่บ แกง
- เนื้อพื้นท้อง หรือ เนื้อส่วนล่าง (Flank): เหมาะกับการย่าง ลวก ต้มแซ่บ
Tips:
- เลือกเนื้อให้เหมาะกับเมนู: เนื้อที่มีไขมันแทรกเยอะ เหมาะกับการย่าง อบ หรือตุ๋น ส่วนเนื้อที่มีไขมันน้อย เหมาะกับการบด หรือทำสเต็ก
- ปรุงเนื้อด้วยความร้อนที่เหมาะสม: เนื้อบางส่วนต้องใช้เวลาปรุงนาน เช่น เนื้อตุ๋น เนื้ออบ
- เลือกเครื่องปรุงรสให้เหมาะกับเมนู: เครื่องเทศ สมุนไพร ซอสต่างๆ